1. เช็คสภาพของตู้คอนเทนเนอร์ที่เราเลือกใช้ก่อน และมีจุดสังกต ดังนี้
-ดูความแข็งแรงของตู้คอนเทนเนอร์ ว่าพอที่จะตั้งซ้อนขึ้นไปได้หรือไม่
-ดูโครงสร้างมุมเสาของตู้และรอยเชื่อมระหว่างเหล็ก เพราะตู้มีส่วนของเสาที่จะอยู่ตามมุมของตู้ ระหว่างเสาก็จะมีเหล็กที่เชื่อมต่อกันคล้ายกับคานที่เชื่อมเสาคอนกรีตเข้าไว้ด้วยกัน
- ผนังเหล็กของตู้ นอกจากเสาและคานเหล็กของตู้ที่ช่วยรองรับน้ำหนักแล้ว ยังมีผนังเหล็กที่มีลักษณะพับไปมาช่วยเสริมให้ตู้แข็งแรงยิ่งขึ้น แต่ส่วนที่เป็นประตูนั้นจะไม่ได้มีการช่วยรับน้ำหนักแต่อย่างใด
พื้นและเพดานรับน้ำหนัก น้ำหนักต่างๆที่อยู่ในตู้จะถ่ายลงมาที่พื้นโดยตรง (ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าซื้อตู้เปล่ามา จะมีพื้นไม้ติดมาด้วยอยู่แล้ว) ถ่ายมาสู่โครงเคร่าเหล็กที่เชื่อมกับโครงสร้างหลักอีกที
บ้านคอนเทนเนอร์
2. ยอมเสียเงินเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อให้ได้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหม่ที่สุด
เพื่ออายุการใช้งาน ดีกว่ายอมเสี่ยงกับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีอายุการใช้งานมานาน
3. จำเป็นต้องมีการการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร บ้านคอนเทนเนอร์
ต้องมีการคำนวณโครงสร้างทางวิศวกรรมรวมทั้งกฎหมายอาคารต่างๆ เหมือนอาคารทั่วไป และต้องขออนุญาตก่อนก่อสร้าง เพราะเมื่อเราสร้างเสร็จ เจ้าตู้เหล่านี้ก็จะกลายเป็นบ้านที่สามารถเข้าไปพักอาศัยได้ ซึ่งบ้านก็คืออาคารประเภทหนึ่งที่จะต้องขออนุญาตในการก่อสร้างทุกครั้ง
4. หาผู้รับเหมาที่สามารถทำงานให้คุณได้ตรงตามสเปก และครอบคลุมทุกงานที่คุณต้องการสร้าง
รับทำตู้คอนเทนเนอร์ตามสั่ง | แหล่งรวมตู้คอนเทนเนอร์ตู้ขนส่งสินค้า ราคาถูก ออกแบบและตกแต่ง ภายนอก ภายใน ตู้คอนเทนเนอร์ บ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รีสอร์ท ออกแบบและควบคุมโดย สถาปนิกเฉพาะทาง ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
5. ตรวจสอบสภาพของตู้คอนเทนเนอร์
ว่าอยู่ในสภาพแข็งแรงสมบูรณ์แค่ไหน เช่น เสา คาน ผนัง พื้น และ เพดาน และอื่นๆ
6. วางแผนระบบไฟฟ้าและประปา
7. เตรียมพื้นที่ในการสร้างบ้านคอนเทนเนอร์
เพราะไม่สร้างตั้งตู้คอนเทนเนอร์ไว้บนพื้นดินได้ เพราะคอนเทนเนอร์มีน้ำหนักมาก อาจจะใช้เพียงเข็มคอนกรีตหกเหลี่ยมกลวงหรือเข็มรูปตัวไอ ยาว 6 เมตร กดลงไปด้วยรถแบ็กโฮหรือแรงงานคนรองรับก่อน แล้วทำฐานรากคอนกรีตยกขึ้น 50 เซนติเมตรเหนือพื้นดิน ก็จะปลอดภัยกว่า
8. เราจำเป็นที่จะต้องใส่ฉนวนกันความร้อนที่ผนัง พื้น และเพดาน
ในส่วนด้านในของตัวตู้ก่อน ฉนวนที่นิยมใช้กันอาจแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1. ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่น (โพลียูรีเทนโฟม) จะมีความหนาประมาณ 8 มิลลิเมตร วิธีนี้การทำงานอาจจะช้าแต่ราคาไม่แพง
2. โฟมแบบพ่น วิธีนี้จะมีการพ่นจากด้านในของตู้ การทำงานรวดเร็ว แต่ราคาอาจจะสูงขึ้นกว่าแบบแรก
อีกทางหนึ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันความร้อนก็คือการทำหลังคาซ้อนขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง โดยการต่อโครงเหล็กกล่องหรือเหล็กกลมขึ้นไป อาจจะเป็นหลังคาเพิงหมาแหงน
"8 tips you need to know before building a Shipping Container Home"
1. Make Sure You See The Containers You're Buying.
2. Spend A Little Extra On a Good Condition Container.
3. Building Permission and Issuance of license
4. Find A Contractor That Can Do It All
5. Understand The Shipping Container's Structure about Exterior wall, Floor, Inferior purlin and more
6. Plan Ahead for Plumbing and electrical system
7. Prepare Flat-Slab, Floor Load
8. install refrigerating system and thermal insulation.
หน้าที่เข้าชม | 100,447 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 68,724 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 มิ.ย. 2564 |
ร้านค้าอัพเดท | 31 ส.ค. 2568 |